วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

แกงเขียวหวาน

 แกงเขียวหวาน





ประวัติ

   ประวัติแกงเขียวหวาน เริ่มๆ มาจาก แกงป่า แกงเผ็ด ตามลำดับ จนเรามาใช้พริกขี้หนูสดเขียวๆ ทำน้ำพริกแกงแทนกันนี่เอง แกงเขียวหวานจึงเกิดขึ้นมา จนได้รับความนิยมไปทั่ว
ประวัติแกงเขียวหวาน มีความเป็นมาอย่างไร มีใครรู้บ้าง? ได้ยินเสียงโป๊กๆ มาแต่ในครัว ตามที่คุยกันไว้เมื่อคืนว่าวันนี้เราจะทำแกงเขียวไก่อร่อยๆ ทานกับขนมจีนกันนี่ เครื่องพริกแกงถูกตำจนละเอียดสีเขียวเนียนสวยเชียว ไก่บ้านตัวโตๆ สับเป็นชิ้นๆ มะเขือเปราะเอาไว้หั่นใส่เลยจะได้ไม่ดำ ปรุงรสออกเค็มตัดหวานนิดๆ ใบมะกรูดฉีก ใบโหระพาเพิ่มความหอม เติมสีให้น่าทานๆ กันซักหน่อยด้วย พริกชี้แดง พริกชี้ฟ้าส้ม พริกชี้เขียว แล้วแต่จะชอบ ราดบนเส้นขนมจีน ได้ไข่ต้ม โรยด้วยพริกผงหน่อยๆ ทานแกล้มกับ ถั่วฝักยาว ถั่วพู โหระพาสดๆ ช่างอร่อยๆเหลือคณา จนมันอดคิดไม่ได้เลยว่า “ประวัติแกงเขียวหวานมีความเป็นไปเป็นมาอย่างไร?

ประวัติแกงเขียวหวาน มีความเป็นไปเป็นมาอย่างไร?

    ประวัติแกงเขียวหวาน มีความเป็นไปเป็นมาอย่างไรไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่จัดว่าเป็นแกงไทยโบราณที่มีชื่อเสียงไปไกลทั่วโลก เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับชาวต่างชาติในนาม Thai Green Curry ตามสีของน้ำแกงนั่นเอง
ย้อนๆ หลังไป ไทยเรายังไม่ได้เอากะทิมาทำกับข้าวกันหรอก น้ำพริกแกงเผ็ดที่ถูกตำขึ้นมาก็เพื่อทำแกงป่ากันเป็นเสียส่วนใหญ่ น้ำพริกแกงที่เน้นตำจากพริกแห้งสีแดงๆ จนได้พริกแกงละเอียดๆ สีแดงๆ ต้มในน้ำให้เดือด ใส่เนื้อสัตว์ลงไป พอสุกปรุงรสใส่ผัก และขาดไม่ได้คือ พริกไทยอ่อน กระชายซอยเส้น ใบโหระพาเพิ่มความหอมให้แกงป่าถ้วยโปรด อ้อขาดไม่ได้กับพริกชี้ฟ้าเพิ่มสีสันให้น่าทานอีกซักหน่อย
ประวัติของแกงเขียวหวาน ก็มาเริ่มๆ เมื่อคนไทยเริ่มนำกะทิมาทำกับข้าวนี่แหละ หัวกะทินำมะเคี่ยวร้อนๆ จนแตกมัน ก็น้ำมันที่แตกออกมานี่แหละเป็นภูมิปัญญาไทยใช้ผัดน้ำพริกแกงให้หอมๆ มีรสชาติดีขึ้น ตามด้วยการใช้กะทิแทนน้ำตามแบบฉบับแกงป่า ผักกลิ่นแรงๆ อย่าง กระชาย พริกไทยอ่อนถูกตัดออกไป แต่ก็ยังใส่กันบ้างเพื่อกลบความคาวสำหรับเมนูปลาต่างๆ ปรุงสันเติมแต่งรสชาติจนได้ “แกงเผ็ด” แกงไทยชื่อเสียงชื่อเสียงก้องไกลในนาม Thai Red Curry
เริมเข้าสูยุกต์ประวัติแกงเขียวหวานกันหละ เมื่อแม่ครัวไทยช่างสร้างสรรค์หันไปใช้พริกขี้หนูสดๆ สีเขียวๆ มาใช้โขลกทำพริกแกงแทนพริกแห้งได้ “น้ำพริกแกงเขียวหวาน” สีเขียวนวลสวย.... เมื่อนำไปใช้ทำแกงกะทิ ผัดน้ำพริกแกงเขียวหวานด้วยกะทิแตกมันจนหอมฉุย ตามด้วยเนื้อสัตว์ ปรุงรส เติมผัก ใบมะกรูด ใบโหระพา ฯลฯ ได้น้ำแกงกะทิสีเขียวนวลสวยเชียว ตรงสีเขียวๆ นวลๆ สวยๆ ของน้ำแกงนี่หละที่ทำให้คนไทยเราตั้งชื่อให้แกงกะทิถ้วยอร่อยนี้ว่า “แกงเขียวหวาน” ที่ปัจจุบันได้รับความนิยมไปทุกสารทิศ
ดีใจนะที่ได้รู้ “ประวัติแกงเขียวหวาน” กันเสียที อย่างน้อยก็ช่วยๆ ลบความเข้าใจผิดที่คิดว่า แกงเขียวหวานคือแกงกะทิสีเขียวมีรสชาติหวาน แต่จริงๆ แล้วแกงเขียวหวานเป็นแกงกะทิมีรสชาติเค็มนำตัดหวานนิดๆ ส่วนชื่อแกงเขียวหวานนั้นจริงๆ แล้วได้มาจากสีของน้ำแกงเขียวๆ หวานๆ นวลๆ กันต่างหาก


6 สูตรแกงเขียวหวาน อาหารไทยดังไกลถึงต่างแดน เหมาะกินกับขนมจีนหรือข้าวสวยก็ได้ ทั้งหอม ทั้งง่าย อิ่มพุงกางแน่นอน 

          แกงเขียวหวาน อาหารไทยรสชาติกลมกล่อมจัดจ้าน มือใหม่หัดเข้าครัวก็ทำอร่อย ส่วนใหญ่จะนิยมใส่เนื้อสัตว์ลงไป วันหยุดนี้ถ้าใครอยากลองทำให้ครอบครัวกินสักหม้อก็ไม่เห็นจะยากเย็นอะไรเลย กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 6 สูตรวิธีทำแกงเขียวหวาน ได้แก่ แกงเขียวหวานเนื้อ แกงเขียวหวานหมู แกงเขียวหวานไก่ยอดมะพร้าวอ่อน แกงเขียวหวานปลาคังสะตอ แกงเขียวหวานยัดไส้หมึกกะตอย และแกงเขียวหวานเจ พร้อมขั้นตอนละเอียด ทำหม้อเดียวกลิ่นหอมไปถึงปากซอย

แกงเขียวหวาน

 1. แกงเขียวหวานเนื้อ

          สำหรับแกงเขียวหวานสูตรแรกขอแนะนำแกงเขียวหวานเนื้อมาเรียกน้ำย่อยกันก่อนเลยเป็นสูตรจากคุณสมาชิกหมายเลข 2228164 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม (#maekwansri) สูตรง่ายใช้น้ำพริกแกงเขียวหวานสำเร็จรูปเคี่ยวกับกะทิและเนื้อวัวจนนุ่ม เสิร์ฟพร้อมปลาเค็ม หรือปลาแดดเดียว 

 ส่วนผสม แกงเขียวหวานเนื้อ

           น้ำพริกแกงเขียวหวาน (ใส่กะปิ)
           น้ำมันพืช
           หัวกะทิ
           เนื้อวัวติดมัน 
           หางกะทิ
           น้ำตาลปี๊บ 
           เกลือเม็ด 
           มะเขือพวง 
           มะเขือเปราะ (ผ่าสี่ส่วน)
           พริกเหลือง (หั่นเป็นเส้น)
           พริกจินดา 
           ใบโหระพา
           ปลาเค็ม หรือปลาแดดเดียว

 วิธีทำแกงเขียวหวานเนื้อ

           1. ผัดน้ำพริกแกงเขียวหวานกับน้ำมันพืชให้หอม

           2. ค่อย ๆ เติมหัวกะทิใส่ลงไปเล็กน้อย เมื่อกะทิเริ่มแตกมันจึงใส่เนื้อวัวลงไปผัดให้เข้ากัน

           3. เติมหางกะทิลงไป เคี่ยวด้วยไฟอ่อนให้เนื้อวัวนุ่ม ระหว่างรอเนื้อนุ่มให้ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและเกลือเม็ด

           4. เมื่อเนื้อเริ่มนุ่มแล้วให้เติมหัวกะทิที่เหลือลงไป รอจนเดือดอีกครั้ง

           5. ใส่มะเขือพวง มะเขือเปราะ พริกเหลือง และพริกจินดาลงไปคนให้เข้ากันประมาณ 1-2 นาที ปิดไฟ ใส่ใบโหระพาลงไป ตักใส่ชาม เสิร์ฟพร้อมปลาเค็ม หรือปลาแดดเดียว

           ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ 7 เมนูอาหารเดือนรอมฎอน ทั้งคาวหวาน เย็นนี้รับอะไรดีคะ


แกงเขียวหวาน

 2. แกงเขียวหวานหมู

          หลังจากทำแกงเขียวหวานเนื้อเอาใจคนชอบเนื้อไปแล้ว สำหรับคนไม่กินเนื้อวัวก็อย่าเพิ่งน้อยใจ ขอนำเสนอแกงเขียวหวานหมู เครื่องแกงกลิ่นหอมฉุยกับเนื้อหมูนุ่มมาพร้อมมะเขือเปราะนิ่ม ๆ ตักราดขนมจีนให้ฉ่ำ จานเดียวไม่พอ อย่างนี้ต้องเบิลหน่อยแล้ว 

 ส่วนผสม แกงเขียวหวานหมู

           น้ำพริกแกงเขียวหวาน 4 ช้อนโต๊ะ 
           หัวกะทิ 1 ถ้วย
           เนื้อหมู 300 กรัม 
           หางกะทิ 3 ถ้วย
           น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ
           เกลือเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ 
           มะเขือพวง 100 กรัม
           มะเขือเปราะ (ผ่าสี่ส่วน) 1 ถ้วย
           พริกชี้ฟ้าแดง (หั่นเฉียง) 2 เม็ด
           ใบมะกรูด (ฉีกก้านกลาง) 4 ใบ
           ใบโหระพา (เด็ดเป็นใบ) 1 ถ้วย
           น้ำปลาดี 2 ช้อนโต๊ะ 
           น้ำมันพืช (สำหรับผัด)
           ขนมจีน

 วิธีทำแกงเขียวหวานหมู

           1. ผัดน้ำพริกแกงเขียวหวานกับน้ำมันพืชจนหอม เทหัวกะทิใส่ลงไปเล็กน้อย รอจนกะทิแตกมันจึงใส่เนื้อหมูลงไปผัดพอสุก

           2. เติมหางกะทิลงไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อน ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและเกลือเม็ด

           3. เมื่อเนื้อหมูเริ่มนุ่มแล้วให้เติมหัวกะทิที่เหลือลงไป รอจนเดือดอีกครั้ง

           4. ใส่มะเขือพวง มะเขือเปราะ พริกชี้ฟ้า และใบมะกรูดลงไปคนให้เข้ากัน ยกออกจากเตา โรยใบโหระพาลงไป ตักใส่ชาม เสิร์ฟกับขนมจีน


แกงเขียวหวาน

 3. แกงเขียวหวานไก่ยอดมะพร้าวอ่อน 

          ส่วนใหญ่แกงเขียวหวานไก่จะใส่เลือด หรือมะเขือเปราะ แต่สำหรับแกงเขียวหวานไก่ที่ยกมาฝากวันนี้ใส่ยอดมะพร้าวแทนค่ะ ขอนำเสนอแกงเขียวหวานไก่ยอดมะพร้าวอ่อน นอกจากใส่ไก่ชิ้นหนาแล้วยังมีความกรุบกรอบของยอดมะพร้าวทำให้เคี้ยวเพลินกว่าเดิม เอาไปผัดกับข้าวก็อร่อยไปอีกแบบนะคะ

 ส่วนผสม แกงเขียวหวานไก่ยอดมะพร้าวอ่อน

           น้ำพริกแกงเขียวหวาน 100 กรัม
           กะทิสำเร็จรูป 500 มิลลิลิตร
           เนื้ออกไก่ (หั่นเป็นชิ้น) 300 กรัม
           น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
           น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
           ยอดมะพร้าว 100 กรัม
           พริกขี้หนู 1 ช้อนโต๊ะ
           ใบมะกรูด 5 ใบ
           ใบโหระพา 30 กรัม
           พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง (สำหรับตกแต่ง)
           ใบมะกรูด (สำหรับตกแต่ง)
           น้ำมันมะกอกสำหรับผัด

 วิธีทำแกงเขียวหวานไก่ยอดมะพร้าวอ่อน

           1. ผัดน้ำพริกแกงเขียวหวานกับน้ำมันมะกอกในกระทะจนหอม ค่อย ๆ เติมกะทิ ผัดจนกะทิแตกมัน จากนั้นใส่เนื้อไก่ลงผัดจนสุก ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บคนผสมจนเดือด

           2. ใส่ยอดมะพร้าว พริกขี้หนู ใบมะกรูด และใบโหระพาคนผสมจนเดือด ตักใส่ชาม แต่งหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าแดง และใบมะกรูด พร้อมเสิร์ฟ

           ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงเขียวหวานไก่ยอดมะพร้าวอ่อน แกงไทยสุดฮิต


แกงเขียวหวาน

 4. แกงเขียวหวานปลาคังสะตอ

          แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายก็ว่าเด็ด แต่ถ้ามาเจอแกงเขียวหวานปลาคังสะตอนี่เด็ดยิ่งกว่า อยากให้มาลองทำสูตรจากคุณบ่งบ๊ง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ใส่สะตอแทนมะเขือเปราะ เคี้ยวกรุบกว่าเดิม เพิ่มปลาคังเนื้อเหนียวลงไปอีกด้วย มื้อนี้อิ่มคุ้ม 

 ส่วนผสม น้ำพริกแกงเขียวหวาน

           ลูกผักชีคั่ว 1 ช้อนคาว
           ยี่หร่าคั่ว 1 ช้อนชา
           พริกไทยขาวเม็ด 5 เม็ด
           พริกขี้หนูสวนสีเขียว 30-50 เม็ด
           เกลือป่น 1 ช้อนชา
           ข่าแก่หั่นละเอียด 1 ช้อนชา
           ตะไคร้ซอย 1 ช้อนคาว
           ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1/2  ช้อนชา
           รากผักชีหั่น 1 ช้อนชา
           กระเทียมสับ 9 กลีบ
           หอมแดงซอย 3 หัว
           กะปิ 1 ช้อนชา

          หมายเหตุ : นี่คือสูตรน้ำพริกแกงเขียวหวานสำหรับท่านที่ไม่ชอบพริกแกงสูตรสำเร็จ ท่านก็คงต้องออกแรงโขลกพริกแกงเอง แต่ได้รสชาติอร่อยสมใจค่ะ

 ส่วนผสม แกงเขียวหวานปลาคังสะตอ

           น้ำพริกแกงเขียวหวาน
           น้ำมันพืช 1 ช้อนคาว
           หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
           เนื้อปลาคังสด 500 กรัม (โดยล้างเนื้อปลาคังด้วยเกลือหรือน้ำมะขามเปียกให้สะอาด น้ำมะขามเปียกจะช่วยลดกลิ่นคาวปลา)
           หางกะทิ  1 ถ้วยตวง
           น้ำปลา 1 ช้อนคาว
           เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
           น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนคาว
           สะตอ 300 กรัม 
           ใบมะกรูดฉีก 2-3 ใบ
           กระชายซอย 100 กรัม (ขูดเปลือกออกนิดหน่อยแล้วซอยฝอย)
           พริกชี้ฟ้าแดง-เขียว-เหลือง (หั่นเฉียง)
           ใบโหระพา 

 วิธีทำน้ำพริกแกงเขียวหวาน

           1. โขลกลูกผักชี ยี่หร่า และพริกไทยขาวเม็ดเข้าด้วยกันให้ละเอียด ตักใส่ถ้วยพักไว้

           2. โขลกพริกขี้หนูสีเขียวกับเกลือเข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด และรากผักชีแล้วโขลกรวมกันให้ละเอียด 

           3. ใส่กระเทียมสับและหอมแดงซอยโขลกรวมกันให้ละเอียด จากนั้นใส่เครื่องที่โขลกไว้ทั้งหมด และกะปิ โขลกให้เข้ากันดี ตักใส่ถ้วยพักไว้

          หมายเหตุ : คุณบ่งบ๊งเลือกใช้น้ำพริกแกงเขียวหวานสำเร็จรูปที่มาวางขายที่ตลาด อตก. เป็นน้ำพริกแกงเขียวหวานจากยะลา เป็นแกงของคนใต้ แต่ราคาค่อนข้างสูง แต่รสชาตินั้นเด็ดขาดมาก

 วิธีทำแกงเขียวหวานปลาคังสะตอ

แกงเขียวหวาน

           1. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใส่น้ำพริกพริกแกงเขียวหวานลงไปผัดจนหอม

           2. ใส่หัวกะทิ 1 ถ้วยลงไปผัดจนหัวกะทิแตกมันเล็กน้อย

           3. ใส่เนื้อปลาคังลงไปผัดให้สุกแล้วเติมหางกะทิลงไป (ถ้าเนื้อปลาสดเวลาผัดไม่ต้องกลัวว่าเนื้อปลาจะเละ) 

           4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือป่น และน้ำตาลปี๊บ ใส่สะตอ กระชายซอย และพริกชี้ฟ้าสามสี จากนั้นต้มต่อสักครู่จนสะตอสุก

           5. แบ่งใส่ใบโหระพาบางส่วนลงไป (ถ้าใส่ตอนปิดไฟแล้วจะทำให้ใบผักสีหมองคล้ำไม่สวย) คนผสมเบา ๆ ให้เข้ากันดี แล้วปิดไฟ (บ่งบ๊งจะแบ่งหัวกะทิไว้ส่วนหนึ่งแล้วเทใส่ไปในตอนสุดท้ายก่อนดับไฟ วิธีการแบบนี้สำหรับคนที่ไม่ชอบให้กะทิในแกงแตกมันลอยเอ่อขึ้นมา)

           ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงเขียวหวานปลาคังสะตอ หอมแกงไทยเอาใจคนชอบกินปลา


แกงเขียวหวาน

 5. แกงเขียวหวานยัดไส้หมึกกะตอย 

          เวลาไปตลาดแล้วเจอหมึกกะตอยต้องซื้อมาทำเมนูหมึกกระตอยทอดกระเทียมพริกไทย หรือต้มจืดหมึกกะตอยยัดไส้ แต่สำหรับใครที่อยากหาเมนูแนว ๆ ขอแนะนำแกงเขียวหวานยัดไส้หมึกกะตอยสูตรจากคุณ LadyBimbettes สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม และรายการกินอยู่คือ และรายการ กินอยู่คือ (ออกอากาศวันที่ 23 มิถุนายน ทางช่อง Thai PBS) จับเนื้อหมูสับและเนื้อกุ้งสับยัดใส่ลงไปในหมึกกะตอย จากนั้นนำใส่ลงไปในหม้อน้ำพริกแกงเขียวหวาน เพิ่มมะเขือเปราะ ใบมะกรูด มะเขือพวง พริกชี้ฟ้าแดง และโหระพาลงไป โอ้โห… อร่อยจัดเต็มจากทะเล

 ส่วนผสม แกงเขียวหวานยัดไส้หมึกกะตอย

           เมล็ดผักชีคั่ว
           พริกไทย
           รากผักชี
           เกลือ
           ข่า
           ตะไคร้
           พริกชี้ฟ้าสีเขียว
           พริกขี้หนู
           กระชาย
           กระเทียม
           หอมแดง
           รากผักชี กระเทียม พริกไทย และเกลือ (สำหรับหมัก)
           เนื้อหมูสับ
           เนื้อกุ้งสับ
           แป้งมันสำปะหลัง
           ลูกผักชี
           หมึกกะตอย
           หัวกะทิ
           น้ำปลา
           กะทิ
           มะเขือเปราะ
           ใบมะกรูด
           มะเขือพวง
           พริกชี้ฟ้าสีแดง
           โหระพา
           ใบมะกรูดซอย

 วิธีทำแกงเขียวหวานยัดไส้หมึกกะตอย

แกงเขียวหวาน
           1. นำเมล็ดผักชีที่คั่วแล้วลงตำในครก ตามด้วยพริกไทย รากผักชี เกลือ ข่า ตะไคร้ และพริกชี้ฟ้าสีเขียวตำให้เข้ากัน

           2. เมื่อส่วนผสมใกล้ละเอียดให้ใส่พริกขี้หนู กระชาย กระเทียม และหอมแดงลงไปแล้วตำให้เข้ากันอีกครั้ง พักไว้

แกงเขียวหวาน
           3. ตำรากผักชี กระเทียม พริกไทย และเกลือใส่ลงไปคลุกเคล้ากับเนื้อหมูและเนื้อกุ้ง ใส่แป้งมันสำปะหลังลงไปนิดหน่อย เพื่อทำเป็นไส้ นำไปยัดใส่ในหมึกกะตอย จากนั้นใช้ไม้เสียบให้หัวกับตัวหมึกติดกันเพื่อความสวยงาม พักไว้

           4. นำหัวกะทิลงไปเคี่ยวในหม้อให้แตกมัน จากนั้นนำพริกแกงเขียวหวานที่ตำไว้ใส่ตามลงไปคนให้เข้ากัน เติมน้ำปลาและน้ำกะทิเพิ่ม รอจนเดือดแล้วใส่หมึกที่ยัดไส้ไว้ลงไป ตามด้วยมะเขือเปราะ ใบมะกรูด มะเขือพวง และพริกชี้ฟ้าแดง

           5. เมื่อทุกอย่างสุกแล้วให้ใส่ใบโหระพาลงไป ปิดฝารอสักพักเป็นอันเสร็จสิ้น 

           6. เวลาเสิร์ฟให้โรยใบมะกรูดซอยลงไปตกแต่งเพื่อเพิ่มความสวยงามด้วย

           ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงเขียวหวานยัดไส้หมึกกะตอย เมนูอร่อยจากทะเล


แกงเขียวหวาน

 6. แกงเขียวหวานเจ

          ถ้าไม่อยากกินเนื้อสัตว์ลองมาทำแกงเขียวหวานเจได้เลยจ้า ใช้เต้าหู้ขาวหรือโปรตีนเกษตรแทนเนื้อสัตว์ อร่อยง่าย ๆ ไม่ต้องมีเนื้อสัตว์แต่ได้โปรตีนเหมือนกันนะคะ พรุ่งนี้จัดเลยสักหม้อ

 ส่วนผสม แกงเขียวหวานเจ

           น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
           น้ำพริกแกงเขียวหวานเจ 100 กรัม
           กะทิสำเร็จรูป 500 มิลลิลิตร
           เต้าหู้แข็งขาว หั่นเป็นชิ้น 1 ก้อน (หรือโปรตีนเกษตรแช่น้ำจนนุ่ม 300 กรัม)
           ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
           น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
           มะเขือเปราะผ่า 4 ส่วน จำนวน 4-5 ลูก
           ใบมะกรูด ฉีกก้านกลาง 5 ใบ
           ใบโหระพา 20 กรัม
           พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง (สำหรับตกแต่ง)
           ใบมะกรูด (สำหรับตกแต่ง)

 วิธีทำแกงเขียวหวานเจ

           1. ผัดน้ำพริกแกงเขียวหวานเจกับน้ำมันมะกอกในกระทะจนหอม ค่อย ๆ เติมกะทิ ผัดจนกะทิแตกมัน จากนั้นใส่เต้าหู้ (หรือโปรตีนเกษตร) ลงผัดจนสุก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำตาลปี๊บคนผสมจนเดือด

           2. ใส่มะเขือเปราะ ใบมะกรูด และใบโหระพาคนผสมจนเดือด ตักใส่ชาม แต่งหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าแดงและใบมะกรูด พร้อมเสิร์ฟ

           ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ แกงเขียวหวานเจ แกงไทยหอม ๆ อิ่มท้องไร้เนื้อสัตว์

1 ความคิดเห็น: